Featured News
Posts List
Posts Slider
Health
-
โรคภูมิแพ้อากาศเป็นอย่างไร เกิดจากอะไร
ภูมิแพ้อากาศ หรือจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) คือ การอักเสบของเนื้อเยื่อจมูกเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ฝุ่นละออง ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ หญ้า แมลงสาบ รังแคสัตว์ ควันบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งมักทำให้ผู้ป่วยจาม คัดจมูก คันจมูก น้ำมูกไหล และเจ็บคอ
อาการของภูมิแพ้อากาศ
จาม ไอ หรือเจ็บคอ
คันจมูก ปาก หู ตา ผิวหนัง หรือบริเวณอื่น ๆ
คัดจมูก น้ำมูกไหล มีเสมหะ ไม่รับรู้กลิ่น
ปวดหัว
ปวดหู หูอื้อ
น้ำตาไหล ตาแดง ตาบวม หรือขอบตาคล้ำ
อ่อนเพลีย ง่วงซึม รู้สึกไม่สบายตัว หรือหงุดหงิดง่าย
ผิวหนังแห้งและคันคล้ายเป็นผื่นผิวหนังอักเสบ หรือเป็นลมพิษสาเหตุของภูมิแพ้อากาศ
ภูมิแพ้อากาศเกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อจมูก หู ตา ไซนัส และลำคอ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อสารก่อภูมิแพ้เพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศออกจากร่างกาย โรคนี้แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ภูมิแพ้อากาศที่เป็นเฉพาะฤดูกาล (Seasonal Allergic Rhinitis) และภูมิแพ้อากาศที่เป็นตลอดทั้งปี (Perennial Allergic Rhinitis)ปัจจัยที่อาจกระตุ้นหรือทำให้อาการของโรคดังกล่าวแย่ลง ได้แก่
ควันบุหรี่ สารเคมี ควัน หรือมลพิษในอากาศ
อากาศเย็น ความชื้น หรือลม
สเปรย์แต่งผม หรือน้ำหอมที่มีกลิ่นฉุน
การวินิจฉัยภูมิแพ้อากาศ
แพทย์มักวินิจฉัยผู้ป่วยภูมิแพ้อากาศจากประวัติทางการแพทย์และการตรวจร่างกาย โดยอาจตรวจเลือดและวิเคราะห์ภาพถ่ายรังสีเพิ่มเติมในบางราย โดยมีตัวอย่างการตรวจวินิจฉัย ดังนี้1. การวินิจฉัยด้วยการตรวจจมูก
ผู้ป่วยอาจมีรอยย่นในแนวนอนบริเวณกลางจมูกจากการถูจมูกซ้ำ ๆ มีน้ำมูก และผนังกลางจมูกเอียงหรือทะลุ ซึ่งอาจเกิดจากภูมิแพ้อากาศเรื้อรังหรือสาเหตุอื่น ๆ2. การตรวจหู ตา และคอ
ผู้ป่วยอาจมีเยื่อแก้วหูผิดปกติด้านการหดตัวหรือการยืดหยุ่น มีเยื่อบุตาบวม แดง มีน้ำตามาก มีรอยย่นที่ใต้หนังตาล่าง และรอยคล้ำใต้ตา ซึ่งเกิดจากการขยายตัวของหลอดเลือด หรืออาการคัดจมูก3. การวินิจฉัยภูมิแพ้อากาศในห้องปฏิบัติการ
อาจทดสอบภูมิแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้บนผิวหนัง และตรวจเลือดวัดปริมาณเม็ดเลือดขาวอีโอซิโนฟิลและอิมมูโนโกลบูลิน อี (Immunoglobulin E) ซึ่งเป็นสารภูมิต้านทานที่ตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ในเลือดการรักษาภูมิแพ้อากาศ
โดยทั่วไป ผู้ป่วยโรคนี้สามารถดูแลตนเองที่บ้านได้ และควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโรค ตรวจระดับความรุนแรงของอาการ ตรวจโรคที่อาจเกิดร่วมกันอย่างหอบหืด รวมถึงรับยารักษาตามอาการที่เกิดขึ้น ดังนี้1. หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และสารระคายเคืองอันเป็นสาเหตุหลักที่กระตุ้นให้เกิดภูมิแพ้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษา โดยผู้ป่วยสามารถทำได้หลายวิธี เช่น หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีการฟุ้งกระจายของเกสรดอกไม้โดยเฉพาะผู้ที่แพ้เกสรดอกไม้ หรืออยู่ให้ห่างจากเขตก่อสร้างหรือบริเวณที่มีฝุ่นสะสมในปริมาณมาก เป็นต้น2. กำจัดสารก่อภูมิแพ้
การกำจัดสารก่อภูมิแพ้นั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทของสารก่อภูมิแพ้ ดังนี้
ไรฝุ่นที่อาศัยอยู่ในฝุ่นและมูลของไรฝุ่น ตัวไรฝุ่นนั้นมีขนาดเล็กมากจนมองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น มักอาศัยอยู่ตามที่นอน หมอน และฝุ่นละอองที่ฟุ้งอยู่ในอากาศ โดยการกำจัดไรฝุ่นควรใช้หลายวิธีร่วมกัน เช่น นำที่นอน หมอน ผ้าห่ม และตุ๊กตาไปตากแดดจัด อย่างน้อยครั้งละ 30 นาที เป็นประจำทุกสัปดาห์3. การใช้ยาบรรเทาภูมิแพ้อากาศ
ยาที่ใช้ในการรักษาภูมิแพ้อากาศมีด้วยกันหลายชนิด เช่นยาแก้แพ้อากาศหรือยาต้านฮิสตามีน ยกตัวอย่างเช่น ลอราทาดีน เซทิริซีน เฟ็กโซเฟนาดีน ไดเฟนไฮดรามีน เด็สลอราทาดีน ลีและโวเซทิริซีน เป็นต้น ใช้เพื่อลดการหลั่งสารฮิสตามีนซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้ โดยผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยานี้ร่วมกับยาอื่น ๆ
4. การฉีดวัคซีนภูมิแพ้
การฉีดวัคซีนภูมิแพ้เป็นวิธีรักษาแบบภูมิคุ้มกันบำบัด โดยแพทย์จะฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย หรือให้ผู้ป่วยอมยาที่ผสมสารก่อภูมิแพ้ใต้ลิ้นหลาย ๆ ครั้ง โดยเริ่มในปริมาณที่เจือจางที่สุด แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณยาขึ้นทีละน้อยจนกว่าผู้ป่วยจะมีอาการแพ้ที่ทุเลาลงหรือหายขาดโดยใช้เวลารักษาประมาณ 3-5 ปี ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาประเภทนี้ในผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีอื่นข้างต้นแล้วไม่ได้ผล และต้องระมัดระวังอาการแพ้รุนแรงที่อาจเกิดขึ้นด้วยวิธีป้องกันภูมิแพ้อากาศด้วยตัวยเอง
การหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเป็นการป้องกันภูมิแพ้อากาศที่ดีที่สุดติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ amyengland.net
Economy
-
หุ้นไทยวันนี้แนวโน้มแกว่งตัว 1,600-1,620 จุด
หุ้นไทยวันนี้แนวโน้มแกว่งตัว 1,600-1,620 จุด
“บล.กรุงศรี” คาดแนวโน้มหุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบ 1,600-1,620 จุด แม้ได้แรงหนุนจากฟันด์โฟลว์-เก็งกำไรประกาศงบ แต่ราคาน้ำมันที่ปรับลง-จีนล็อกดาวน์-ขายลดความเสี่ยงก่อนประชุมเฟด จะสลับกดดันดัชนี
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันที่ 1 พ.ย.65 โดยคาดว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) จะแกว่งตัว 1,600-1,620 จุด
แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากกระแสเงินลงทุน (ฟันด์โฟลว์) ต่างชาติที่ไหลเข้า โดยซื้อสุทธิ 6 วันต่อเนื่องราว 1.7 หมื่นล้านบาท ตามคาดการณ์เงินเฟ้อสหรัฐที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และแรงซื้อดักงบไตรมาส 3/65 ที่ทยอยประกาศ
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลงจากความกังวลสหรัฐผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น การล็อคดาวน์ของจีน รวมถึงแรงขายลดความเสี่ยงก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกดดันดัชนี
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกซื้อรายตัว (Selective Buy) ในหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 3/65 จะเติบโต ได้แก่ BDMS BH CPF TU GFPT BANPU EPG BEM BTS และ WHA
ถัดมาแนะนำ AOT CENTEL ERW BA AAV SPA SISB AU CPN และ CRC อานิสงส์การเปิดประเทศ รวมถึง KBANK BBL SCB KTB และ TTB อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น
ขอบคุณแหล่งที่มา : businesstoday.co
สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : amyengland.net
Latest News
ริชาร์ลิสันท็อตแนมได้รับบาดเจ็บต้องออกจากสนามภายในห้านาที
ริชาร์ลิสัน กองหน้าท็อตแน...
สล็อต เกมส์มือถือ กลุ่มสล็อต แชร์เทคนิคชนะฟรี
กลุ่มสล็อต สล็อต เกมส์มือ...
ร็อดเจอร์ส รับสภาพ เลสเตอร์ พ่ายแบล็คเบิร์น ร่วงเอฟเอคัพ
ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ ...